วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 8.30 - 13.30
ศึกษาดูงาน "เด็กพิเศษ" ณ โรงเรียนเกษมพิทยา
โรงเรียนเกษมพิทยาตั้งอยู่ที่ 955 ถนนสุขุมวิท 71 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 การเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีพระโขนง แล้วต่อรถกระป้อคันสีแดงไปลงหน้าโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนเกษมพิทยานั้นจะอยู่ติดถนนใหญ่
วันนี้ได้มาศึกษาดูงานนอกสถานที่
การไปดูงานครั้งนี้ทางโรงเรียนได้แนะนำแผนกอนุบาลของโรงเรียนเกษมพิทยา
ได้รู้ถึงหลักสูตร ไฮ/สโคปที่นำมาใช้ในการสอนเด็กปฐมวัย
รวมถึงการทำความเข้าใจกับการพัฒนาภาษาธรรมชาติสำหรับเด็กปฐมวัย
ที่นำเสนอโดย ดร.วรนาท รักสกุลไทย(ผู้อำนวยการแผนกอนุบาลโรงเรียนเกษมพิทยา)
โรงเรียนอนุบาลเป็นเสมือนบ้านหลังที่สองของเด็กที่มีความรัก
ความอบอุ่น ความเอื้ออาทร ความรู้ ความเข้าใจ
เป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาเด็กให้ครบทุกพัฒนาการ ด้วยการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ ผ่านการเล่นและประสบการณ์ตรงอย่างเหมาะสมกับวัยและวุฒิภาวะของแต่ละคน
โดยอาศัยการดำเนินสามประสานระหว่างบ้าน โรงเรียน และชุมชน ดังคำขวัญว่า
"โรงเรียนแสนสนุก บุคลากรมีคุณภาพ เน้นการประสานสัมพันธ์"
ก่อนที่จะได้ไปศึกษาเด็กตอนเรียนนั้นเราได้เห็นเด็กๆ ทำกิจกรรมหน้าเสาธงและได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมหน้าเสาธง
 |
| เตรียมนำเด็กเต้นหน้าเสาธง |
เมื่อทำกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จ ดิฉันและเพื่อนๆ
ที่ได้ไปศึกษาดูงานนั้นได้แบ่งแยกกันไปตามแต่ละห้องเรียนเพื่อไปศึกษาเด็กพิเศษว่าพวกเขาเป็นอย่าง
เด็กที่แต่ละคนได้ศึกษาก็จะเป็นเด็กพิเศษที่ต่างกัน โดยดิฉันได้ศึกษาน้อง โซนา ไซโตะ ชั้นอนุบาล 3/2 น้องเป็นเด็กพิเศษที่มีอาการเป็นดาวน์ซินโดรม
 |
| น้องโซนา ไซโตะ |
หัวข้อที่ศึกษาจะมี เด็กเรียนรู้อะไรบ้าง และสิ่งที่ครูสอนนั้นสอนอย่างไร ?
จากการที่ได้ศึกษา น้องเรียนในหน่วยการเรียนรู้เรื่อง "ส้ม" แต่ก่อนที่จะเรียนนั้นครูจะนำเด็กด้วยกิจเคลื่อนไหวและจังหวะ
เมื่อเข้าสู่การเรียนครูจะมีการพูดคุยกฎกติกา การทำกิจกรรมต่างๆ ในวันนี้
โดยครูจะให้เด็กเลือกกิจกรรมว่าจะทำอะไรบ้างสามอย่าง
และให้เด็กไปทำในกิจกรรมนั้นๆ ที่เด็กเลือก โดยน้องโซนาเลือกกิจกรรมพิเศษ
หนังสือ และแป้งโด
 |
| กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ |
 |
| บอร์ดกิจกรรม |
 |
| เด็กๆ ทำการเลือกกิจกรรม |
เมื่อเด็กๆ ทำกิจกรรมเสร็จ ก็จะมารวมกัน
มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้จากสิ่งที่เด็กๆ ได้ทำ
และจาการที่ได้ศึกษาน้องโซนานั้นน้องเลือกทำกิจกรรมพิเศษคือการทำนกแพนกวินจากระดาษ
น้องมีทักษะการฟังที่ดี น้องสามารถเข้าใจในคำพูด
เมื่อเพื่อนชวนน้องโซนาไปทำกิจกรรมน้องก็ไปทำกับเพื่อน
ตอนแรกน้องไม่ค่อยเข้าใจว่าทำอย่างไร ต้องวาดอย่าไร
น้องโซนาให้ฉันจับมือน้องวาด
ฉันจึงจับมือน้องวาดนกแพนกวินและกตัดกระดาษตามรูปให้แล้วให้น้องทากาวเอง
น้องสามารถทำได้ดีจากสิ่งที่บอก น้องทากาว ยัดกระดาษ
และแปะกระกบเป็นตัวนกแพนกวินได้
น้องตัดกระดาษเป็นตาของนกแพนกวินและวาดปากได้
เมื่อน้องทำนกแพนกวินเสร็จน้องก็ไปมุมนิทานให้ดิฉันเล่านิทานให้ฟัง
น้องสามารถเข้าใจในคำพูดสั้นๆ และพูดตามได้จากสิ่งที่เห็นในหนังสือ เช่น
ทิ้งขยะ ล้างมือ จากนั้นน้องก็ไปเล่นมุมขายของ น้องขายส้มให้กับเพื่อนๆ
ชั่งกิโล คิดเงิน โดยที่น้องรับผลไม้จากที่เพื่อนใส่ถุงมาชั่งกิโล
และรับเงินจากเพื่อนมาเก็บ เมื่อคิดเงินเสร็จ
น้องก็นำผลไม้ที่ใส่ถุงนั้นไปเก็บที่เดิมโดยน้องสามารถแยกประเภทและสีของผลไม้ได้
เช่น มะม่วงสุกสีเหลือง แอปเปิ้ลสีแดง และส้มสีส้ม
และไปต่อไม้บล็อกกับเพื่อนๆ
 |
| ทำนกแพนกวิน |
 |
| น้องโซนาทากาว แปะกระดาษ |
 |
| อ่านนิทานให้น้องโซนาฟัง |
 | |
| เรียนรู้ภาษาจากคำพูดของสิ่งที่เห็นในนิทาน |
จาการที่ได้ศึกษาน้องโซนาในระยะเวลา 3
ชั่วโมงนั้นเห็นได้ว่าน้องมีพัฒนาการที่ดี น้องอาจจะพูดไม่ชัด
แต่ก็สามารถรู้และจับใจความได้ว่าน้องพูดว่าอะไร
น้องมีความเข้าใจเมื่อครูและเพื่อนพูด น้องสามารถทำตามได้
และในการทำกิจวัตรประจำวันน้องก็สามารถเข้าห้องน้องเองได้ ล้างเท้าเองได้
น้องมีระเบียบวินัยเพราะดูจากสิ่งที่น้องทำกิจวัตรในการเข้าห้องน้ำ
เมื่อน้องล้างเท้าเสร็จน้องเอาสายยางเก็บไว้ที่เดิม
น้องเห็นเพื่อนลืมกดชักโครกน้องก็กดให้เพื่อนและปิดฝาชักโครกให้
และจากนั้นก็ลงไปทำกิจกรรมกลางแจ้งร่วมกับเพื่อนๆ
แม้ดิฉันจะลงไปดูน้องดูเท้าเปล่าที่ไม่ได้ใส่ร้องเท้าแต่น้องโซนาก็เป็นห่วงและหวังดี
น้องมองที่เท้าดิฉันและบอกให้ไปใส่น้องเท้า
ดิฉับรับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่น้องมีให้ น้องน่ารักมากจริงๆ
ถึงแม้ว่าน้องจะเป็นพิเศษ
แต่ในฐานะที่เราเป็นครูน้องก็เปรียบเสมือนลูกเราคนหนึ่งที่เราต้องรักและอบรมสั่งสอนให้เขาเติบโตและอยู่ร่วมกันกับคนอื่นได้อย่างมีความสุขให้ดี
 |
| เล่นเครื่องเล่นสนาม |
ความรู้ที่ได้รับ
เราได้รู้ ได้เข้าใจ และได้เห็นพฤติกรรมเด็กพิเศษอย่างเป็นนามธรรมมากขึ้น
ได้เห็นการจัดการเรียนกาสอนแบบไฮสโคป ได้เห็นว่าเด็กๆ เรียนอย่างไร
และคุณครูสอนอย่างไร ซึ่งเป็นแนวทางให้เราได้เรียนและศึกษาต่อไป
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
1. ทำให้เรารู้ และเข้าใจเด็กที่มีความต้องการพิเศษมากยิ่งขึ้น
2. เมื่อเรารู้และเข้าใจแล้ว ในฐานะที่เราเป็นครูปฐมวัยเราต้องให้ความช่วยเหลือและจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับเขา
การประเมินผล
1. ตนเอง : ตั้งใจศึกษาดูงาน เรียนรู้ และจดบันทึก
2. เพื่อน : ตั้งใจศึกษาดูงานอย่างเต็มที่ และมีความสุขที่ได้อยู่กับน้องๆ
3. อาจารย์ : คอยดูนักศึกษาดูงานอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น